วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

วิธีการทํา blogger

การสร้าง Blog !!! Update 2012Blog ไทยก็มีเยอะนะครับ แต่ส่วนใหญ่ เค้าไม่ให้มีโฆษณาใน Blog
จึงขอแนะนำ Blog ของ google ดีกว่า ซึ่งมีภาษาไทย ในการอธิบายเมนูต่างๆด้วย
และสามารถเลือกภาษาที่จะแสดงเมนูใน blog ได้ (กรณีทำโฆษณาภาษาอังกฤษ)
การสร้าง blog กับ blogger.com ชื่อที่ได้ จะได้เป็น ชื่อที่ตั้ง.blogspot.com
ถามว่า Blog สู้การทำเว็บ .com ได้มั้ย ลองเข้า google.co.th แล้วค้นคำว่า เที่ยวลาว ดูนะครับ
จะเห็นว่า blog สู้ .com ได้อย่างสบาย การที่เว็บจะอยู่อันดับต้น มันขึ้นกับเนื้อหาในเว็บครับ
@ ...วิธีการสมัคร Blogger.com !!! @
...ล่าสุดอาจไม่เหมือนในภาพนะครับ เพราะ blogger มีการพัฒนา...
...แต่จะเหมือนกันในหลักการครับ สามารถดูเปรียบเทียบได้ครับ...


เข้า http://www.blogger.com

ถ้าคุณเคยสมัครอะไรของ google ไว้แล้ว เช่น เคยสมัครเมล์ gmail ก็สามารถใช้ รหัส gmail login ในช่อง ลงชื่อเข้าใช้งานได้เลย
...หรือถ้าไม่เคยสมัครอะไร หรืออยากจะสมัครใหม่ ก็ คลิกคลิกที่ลูกศรสีส้ม สร้างบล็อคของคุณทันที



..ที่อยู่อีเมล ใส่เมล์ของเรานะครับ เมล์อะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็น gmail ครับ ก็ประมาณว่า เมล์ที่เราใช้อยู่นั่นแหละครับ
..ใส่เมล์นั้นอีกครั้งครับ
..กำหนดรหัสผ่าน ตั้งขึ้นมาเลย ไม่ใช่รหัสเมล์นะครับ เป็นรหัสที่เราตั้งขึ้นเพื่อสมัคร blogger ครับ
..ชื่อที่แสดง ก็อย่างที่ในเว็บบอกครับ คือ คือนี่จะแสดงว่าเราเราโพสข้อความอะไรใน blog ของเรา หรือเขียนคอมเม้น แสดงความคิดเห็น blog ของคนอื่น
...รหัสยืนยัน ใส่รหัสสุ่มตามภาพที่ขึ้นมา
...ทำเครื่องหมายช่องสี่เหลี่ยม ยอมรับข้อตกลง ...จากนั้นคลิก ดำเนินการต่อ 


...จากข้างบนเป็นรูปแบบเก่า ของ blogger นะครับ สรุปคือ เราสมัครเข้าบัญชี blogger ครับ
...จากนี้ มาดูรูปแบบใหม่ ในการเขียน blogger ครับ



คลิกที่ บล็อกใหม่ เพื่อเริ่มสร้าง blog ได้เลยครับ
ตั้งชื่อเว็บบล็อกเลยครับ ชื่อจะปรากฏที่บนสุดของ blog เช่น ดังภาพ



ที่อยู่บล็อก ก็คือ ชื่อที่อยู่ url ของ blog นั่นเองครับ ตัวอย่างชื่อ blog

สำหรับการ ตรวจสอบความพร้อมคือ ตรวจสอบว่าชื่อที่ตั้งอยู่ ซ้ำหรือมีใครใช้อยู่หรือยัง
ถ้าขึ้น ที่อยู่บล็อกนี้สามารถใช้ได้ ก็สามารถใช้ชื่อนี้ได้ครับ

*** ทั้งชื่อเว็บบล็อก และที่อยู่ บล็อก สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลังครับ
และ 1 user ที่ใช้ login blogger สามารถ สร้าง blog ได้ 100 blog ครับ
ถ้าอยากสร้างอีก ก็สมัคร account blogger ใหม่ เพิ่มอีกครับ ***

เสร็จแล้วก็เลือกรูปแบบ แล้วคลิก สร้างบล็อกครับ
 เลือกได้เลยครับ
ชอบแบบไหนก็เลือกไปก่อน สามารถ เปลี่ยนแปลงภายหลังได้


พอคลิกแล้ว ระบบจะขึ้น ดังนี้ ...ผมตั้งชื่อว่า "ทดสอบสร้าง blog" นะครับ ชื่อ blog ก็เลยเป็นตามภาพ ให้คลิกที่ชื่อ blog ที่คุณตั้งขึ้นมาได้เลยครับ... เพื่อเข้าไปดูเมนูต่างๆก่อน
เมนูบนสุดรูปดินสอ สามารถคลิกเพื่อเริ่มโพสข้อความได้เลย
...สำหรับเมนูซ้ายมือ ที่อยากจะเน้นคือ เมนูหน้าเว็บ รูปแบบ แม่แบบ การตั้งค่า



ทำความเข้าใจ เกี่ยวกับ blog ของ blogger ก่อนครับ
ก่อนเขียน blog เราต้องทำความเข้าใจและวางแผนก่อนครับ
 

.. blog เราสามารถ เขียนข้อความต่างๆ แทรกภาพ หรือนำเสนอต่างๆได้ ...
การเขียน blog ที่ blogger
- ข้อความล่าสุด จะอยู่ที่หน้า blog
- ข้อความต่างๆที่เขียนไป จะเป็นหัวข้อ รวมอยู่ในคลังบทความของบล็อก
ให้คลิกเข้าดูที่ 
ซึ่งคำว่า "คลังบทความของบล็อก" ตัวอย่าง blog เที่ยววังน้ำเขียว http://wang-namkeaw.blogspot.com ผมแก้คำว่า คลังบทความของบล็อก เป็น "รายละเอียด การท่องเที่ยว อ.วังน้ำเขียว" ซึ่งวิธีแก้ พอเข้าที่รูปแบบ แล้ว คลิกแก้ไข ช่องคลังบทความของบล็อก

...แล้วก็แก้ไขตามแต่จะกำหนดหัวข้อรวมหลัก ของบทความต่างๆที่เราจะนำเสนอใน blog ครับ สำหรับเมนูอื่นๆก็ลองตั้งค่าแล้วโหลดดู blog ดู ว่าจะออกมาแบบไหน ถูกใจหรือป่าวนะครับ


สำหรับรูปแบบของ blog เที่ยววังน้ำเขียว ทำไมไม่มีใน แม่แบบ ของ blogger จะอธิบายอีกทีครับ ...เกี่ยวกับคลังของบทความ เราควรวางแผนแล้วว่า บทความหรือข้อความต่างๆที่เราจะเขียน blog จะเรียงลงมา เมื่อมีผู้เข้าเยี่ยมชม blog ของเรา ผู้เยี่ยมก็จะเห็นหัวข้อเหล่านั้น และเลือกที่จะคลิกอ่านได้ เป็นผลดีในการนำเสนอ
- สำหรับบทความต่างๆ หรือข้อความต่างๆที่เราจะนำเสนอใน blog ข้อความล่าสุดจะอยู่หน้าแรกครับ หน้าแรกของ blog ควรจะเป็นเหมือนหน้ารับแขก ซึ่งออกแบบ เพื่อดึงดูดให้ผู้เข้าเยี่ยมชมได้สนใจ และอ่าน blog ..แล้วจะทำงัยล่ะ ? เมื่อข้อความต่างๆที่เรา เขียนไป เป็นหัวข้อต่างๆ ข้อความล่าสุดจะอยู่หน้าแรก ถ้าเราออกแบบ หน้าที่ดึงดูดความสนใจ ไว้เป็นหน้าแรกแล้ว ถ้าเรามีข้อความมาเขียน หรือ นำเสนออีก จะทำงัย ให้หน้าที่เราออกแบบไว้ อยู่หน้าแรก
...วิธีการง่ายๆก็คือ แต่ละบทความที่เราเขียนไป สามารถแก้ไขได้ เราเข้าไปแก้ไขบทความนั้น แก้ไขตรงวันที่ หรือจะแก้ไขเวลาด้วยก็ได้ ให้เป็นวันที่ล่าสุด เพื่อให้บทความนั้นยังอยู่หน้าแรกนั่นเอง ...อยู่ล่างๆ นะครับ คลิกที่ตัวเลือกของบทความ แล้วจะมีให้แก้ไขได้


สำหรับ ป้ายกำกับสำหรับบทความนี้: ...หมายถืง คีย์เวิร์ด สำคัญ หรือน่าสนใจ ในบทความหรือข้อความนั้นๆนะครับ เวลาโพสหรือเขียนข้อความไปแล้ว จะขึ้นเป็นข้อความ ป้ายกำกับ อยู่ล่างสุดของบทความ


..ทำความเข้าใจ การโพส หรือการเขียนข้อความ


...พอเขียนบทความต่างๆเสร็จ (เมนูต่างๆ สีตัวอักษร ลิ้งค์ แทรกรูปภาพ ลองหัดเล่น หัดเขียนดูนะครับ)
พอเขียนตกแต่งบทความต่างๆเสร็จ ก็คลิก เผยแพร่ ได้เลย ...แต่ถ้ายังไม่อยากให้บทความขึ้นที่หน้า blog ก็คลิก บันทึก ไว้ก่อนได้ครับ เผื่อว่ายังเขียนบทความไม่เสร็จ
แล้วพอเขียนเสร็จ ก้ค่อยคลิกเผยแพร่ครับ

ในเมนู 
 นี้ มีอะไรให้ออกแบบเยอะ เป็นองค์ประกอบของ blog ครับ ซึ่งแต่ละป้ายเมนู สามารถลบได้ หรือเพิ่มได้ครับ
การลบก็คลิกเข้าป้ายเมนูนั้นๆ แล้วจะมีคำว่าลบ ให้เลือกลบครับ ...สำหรับการเพิ่ม ให้คลิกที่


เพิ่ม Gadget ก็จะมีป้าย Gadget มาให้เลือก + เพิ่มเข้ามาใน blog เพื่อนำมาเป็นรูปแบบในการช่วยตกแต่งครับ

ที่ป้าย Gadget ต่างๆ เรายังสามารถย้ายที่จัดเรียงได้ด้วยนะครับ คลิกที่ป้ายที่ต้องการย้ายแล้วลากเลยครับ จะไว้ตรงไหนก็วาง
...สำหรับ Favicon ก็สามารถเปลี่ยนได้ จะเป็นส่วนของหัว blog ซึ่งการเปลี่ยน จะต้องนำรูปขนาดกว้างยาวเท่ากัน(สี่เหลี่ยมจัตุรัส) และมีขนาดไม่เกิน 100KB นะครับ

ตัวอย่าง Favicon ที่เปลี่ยน แล้วกับที่ ยังไม่เปลี่ยนนะครับ ...สำหรับการเปลี่ยน Favicon แรกๆบาวเซอร์ท่องเว็บที่เราใช้ จะยังจำอันเดิมอยู่นะครับ บางทีเราเปลี่ยนแล้วแต่ดู blog ยังไม่เปลี่ยน ไม่ต้องตกใจว่าทำไม่ได้ ลองไปดูคอมเครื่องอื่น ก็จะเป็น Favicon ใหม่ที่เราเปลี่ยนครับ หรือไม่ก็เปิดบาวเซอร์ใหม่ เช่นว่า ใช้ Mozilla Firefox เปิดดู blog ก็ลองใช้ Google Chrome เปิดดูแทน จะเห็นว่า Favicon ก็จะเปลี่ยนครับ

...คราวนี้มาดู เมนู หน้าเว็บ ...หน้าเว็บช่วยให้เราออกแบบหน้าต่างๆแยกต่างหากจากบทความได้ครับ
การเขียนหน้าเว็บ ก็คลิกเข้าคำว่า แก้ไข ก็สามารถเข้าไปเขียนตกแต่งได้ครับ

ตัวอย่างหน้าเว็บ

http://pang-oung.blogspot.com
blog นี้ ผมใช้ 1 หน้าเว็บในการออกแบบ โดยหน้าเว็บ เลือกให้อยู่ด้านบนสุด
... คือ ปางอุ๋ง สวรรค์ นักเดินทาง ชัดๆ HD สำหรับลิ้งค์คือ http://pang-oung.blogspot.com/p/hd.html

http://siamtulip-festival.blogspot.com
blog นี้ ผมใช้ หลาย หน้าเว็บในการออกแบบ โดยหน้าเว็บ เลือกให้อยู่ด้านข้าง  
...จากภาพบน แต่ละหน้าเว็บ สามารถคลิกจับลากสลับจัดเปลี่ยนตำแหน่งกันได้ด้วยนะครับ โดยคลิกที่หัวช่องที่เป็นสีเข้มกว่า หรือจะคลิกเปลี่ยนกลับเป็นฉบับร่างได้ คือไม่อยากให้หน้าเว็บที่เขียนไว้แล้ว โชว์ที่ blog แต่ไม่อยากลบ 

http://talamok-phutok.blogspot.com 
blog นี้ ผมใช้ หลาย หน้าเว็บในการออกแบบ โดยหน้าเว็บ เลือกให้ไม่แสดง ???
งงมั้ยครับ ไม่แสดง แล้วจะเขียนทำไม!!! คือพอให้มันแสดงแล้วรูปแบบมันออกมาไม่สวยครับ มันไม่เข้ากับรูปแบบ แม่แบบ(template) ของ blog
...แล้วพอไม่ให้แสดง แล้วจะเอามาทำลิ้งค์ให้คนเข้าอ่านได้ยังงัย

ในเมนู ผมเพิ่ม Gadget รายชื่อลิ้งค์ครับ (ภาษาอังกฤษคือ Blogroll)
แล้วก็เอาลิ้งค์ต่างๆ ของ หน้าเว็บ มาใส่ที่ Gadget รายชื่อลิ้งค์
...วิธีดูว่าแต่ละ หน้าเว็บ ลิ้งค์อะไร ก็แค่เอาเม้าส์ชี้ที่หัวข้อ หน้าเว็บนั้นๆ เราก็จะเห็นครับ ก็คลิกเม้าส์ขวา แล้ว Copy Link
 
Gadget รายชื่อลิ้งค์ครับ
...พอเราเพิ่มลิ้งค์แล้ว เขียนอธิบายหัวข้อลิ้งค์แล้ว ...ที่ลูกศรขึ้นลงเราสามารถคลิกสลับจัดตำแหน่งได้ด้วยนะครับ 



...เอาล่ะครับ เทคนิคเต็มไปหมดเลย อย่า งง นะครับ ลองทำดูเดี๋ยวก็รู้เอง ไม่ลอง ไม่หัดก็ทำไม่ได้ครับ

...มาถึงที่ติดค้างไว้ คือรูปแบบ แม่แบบ(template) ของเว็บ เที่ยววังน้ำเขียวหรือเว็บตัวอย่างต่างๆข้างต้น ทำไมไม่มีใน แม่แบบของ blogger 

การใส่แม่แบบนอกเหนือจากแม่แบบที่มี ใน blogger ทำดังนี้
เข้าไปที่ http://btemplates.com/ จะมีรูปแบบต่างๆให้เลือก ดาวน์โหลด
ไฟล์ที่โหลดมา จะเป็นไฟล์ .zip ให้เรา แตกไฟล์ .zip ออกมา จะได้เป็นไฟล์ .xml
..เราจะเอาไฟล์ .xml เข้า blog ได้อย่างไร ?

...มาที่เมนู แม่แบบ แล้วมาที่ สำรอง/กู้คืน ที่มุมบนขวา

เลือกไฟล์แม่แบบ .xml ที่เรามีในเครื่อง (ที่เราไปโหลดมา) แล้วคลิก อัปโหลด เพื่อ โหลดไฟล์ xml เข้าไปใน blog เราก็จะได้รูปแบบสวยๆมาใช้แล้วครับ







...มาดูเมนูการตั้งค่า ซะหน่อย
บางคนสงสัยครับว่า blog ที่เขียน บทความต่างๆ ยาวลงมามาก ไม่รู้จะทำงัย มาที่ เมนูการตั้งค่า โพสต์และความคิดเห็น
กำหนดได้เลยครับ จะให้บทความแสดงสูงสุดในหน้าแรกได้กี่บทความ

...อย่าลืมมาตั้ง ภาษาและการจัดรูปแบบด้วยนะครับ ...ตรงโซนเวลา สำคัญครับ เพราะเวลาเราโพสอะไรไป เวลาจะได้ตรงกับวันเวลาในประเทศไทยด้วย
เวลามาดูบทความย้อนหลัง เราจะได้รู้ว่าเราเขียนบทความนี้ วันไหน เวลาไหนนะครับ นอกนั้นก็แล้วแต่ชอบครับ ลองตั้งดู
...สำหรับหัวข้ออื่นๆที่ไม่ได้อธิบาย ลองเข้าไปลองตั้ง ลองทำ เดี๋ยวก็ทำได้ครับ
...สำหรับการลบ blog จะอยู่ที่ การตั้งค่า > อื่นๆ ครับ (เผื่อทำแล้ว อยากลบ ...ซะงั้น)

...ชื่อ blog สามารถ เปลี่ยนแปลงได้ด้วยนะครับ
มาที่ เมนู การตั้งค่า > พื้นฐาน


การเผยแพร่ ...มีประโยชน์กรณีที่เรา ไม่พอใจชื่อ blog ที่ใช้อยู่ ครับ เราก็สามารถแก้ไขเปลี่ยนชื่อได้ครับ

หรือเราจะตั้งค่าชื่อ blog ของเรา ให้เปลี่ยนจาก ชื่อ.blogspot.com เป็น ชื่อที่เราจดโดเมนมา.com ก็ได้
โดยดูตามขั้นตอนนี้ครับ http://blog.makemoney-school.com/?p=312


1 user สามารถเขียน blog ได้ 100 blog
(ข้อมูลนานแล้วนะครับ แต่ล่าสุดก็น่าจะยังใช่อยู่ ถ้าเรายังสามารถคลิก เปิด บล็อกใหม่ได้เรื่อยๆครับ)

คลิกที่ บล็อกของฉันก็จะมีรายชื่อบล็อกต่างๆ ที่เราสร้างไว้

...ถ้าเราจะสร้างเพิ่ม ก็คลิกที่ บล็อกใหม่ครับ

user ของ blogger สามารถ สร้าง blog ได้ 100 blog ถ้าเราอยากสร้างมากกว่านั้น เราก็สมัคร blogger เพิ่มใหม่อีก User ครับ 


... จบแล้วครับ ความรู้ในการเขียน blog และการวางแผนในการจัดรูปแบบ blog เพื่อความสวยงาม
...คัดลอกได้ครับ แต่ต้องอ้างอิงว่า เอาความรู้ มาจาก http://www.makemoney-school.com ด้วยครับ หรือจะอ้างอิงลิ้งค์มาเลยก็ได้ครับhttp://www.makemoney-school.com/how_blogger_signup.html

มาดู เทคนิคการเขียน Blog ใน Blogger.com
เพื่อการใช้เป็นสื่อในการ โฆษณา 4 รูปแบบ

ตัวอย่าง
รูปแบบที่ 1 ทำเป็นเว็บหน้าเดียว (รูปแบบเก่า) คล้าย landing page หรือเว็บหน้าเดียว ที่ดูแล้วมีทุกอย่างในหน้าเดียว ตัวอย่าง ศาลาแก้วกู่ น้ำตกทีลอซู
รูปแบบที่ 2 ทำเป็นเว็บหน้าเดียว (รูปแบบใหม่) เน้นการแสดงภาพรวมในหน้าเดียว ตัวอย่าง เที่ยวลาว พระมหาธาตุแก่นนคร
รูปแบบที่ 3 การทำ blog โดยใช้รูปแบบที่ blogger มีให้เลือก ตัวอย่าง Stop Smoking Shot
รูปแบบที่ 4 การทำ blog โดยใช้รูปแบบใหม่ๆ มีให้เลือกมากมายหลายแบบ ตัวอย่าง วังน้ำเขียว กล้วยไม้ป่าช้างกระ เขาฉกรรจ์

อินเตอร์เน็ตทำอะไรได้บ้าง



อินเทอร์เน็ตคืออะไร

การใช้อินเทอร์เน็ตนั้น จะมีประโยชน์หรือโทษ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้ใช้งานเอง เนื่องจากอินเทอร์เน็ตนั้นเป็นการเปิดโอกาสให้ศึกษาได้ทุก ๆ เรื่อง ขึ้นอยู่กับผู้จะขอใช้บริการอะไร ซึ่งมีลักษณะการใช้งานต่าง ๆ ดังนี้

1. การค้นหาข้อมูล
เราสามารถค้นหาข้อมูลและสิ่งที่ต้องการอยากรู้ได้ โดยการค้นหาจากเว็บไซด์ต่าง ๆ
บนอินเทอร์เน็ต World Wide Web หรือ WWW. เป็นบริหารข้อมูลแบบต่าง ๆ ซึ่งมีการ เชื่อมโยงถึงกันได้ ตัวอย่างเช่น การค้นหาข้อมูลด้วย Google จาก www.google.co.th











2. เพื่อการศึกษา
การใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษา ปัจจุบันมีเว็บที่บริการเรียนออนไลน์มากมาย
หลากหลายวิชา มีทั้งแบบข้อความเพื่ออ่าน ภาพประกอบ เสียงบรรยาย หรือวีดีโอสอนก็มี
3. เพื่อความบันเทิงและข่าวสาร
นอกจากที่กล่าวมาเรายังสามารถดูหนัง ฟังเพลง หรืออ่านหนังสือพิมพ์ นิตยาสาร เพื่อให้มีความรู้เพิ่มเติมได้ ดังตัวอย่างนี้
4. เพื่อการสนทนาหรือจดหมายอีเล็กทรอนิกส์ เราสามารถติดต่อกันได้โดยการสนทนา
ผ่านอินเทอร์เน็ต เช่น การสนทนาด้วยการพิมพ์ข้อความโต้ตอบ หรือการสนทนาผ่านระบบเสียง
การใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์และ อื่น ๆ ดังตัวอย่างนี้
5. เพื่องานธุรกิจ 
นอกจากที่ได้กล่าวมา เรายังสามารถใช้อินเทอร์เน็ตเพื่องานธุรกิจได้ เช่น ซื้อขายสินค้า
ออนไลน์ การทำงานเกี่ยวกับการเงิน เช่น โอนเงินระหว่างธนาคารและอื่น ๆ อีกมากมาย

อินเตอร์เน็ต 'ของเล่น' ของคนไทย

อินเตอร์เน็ต 'ของเล่น' ของคนไทย article
   
     
          เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าอินเตอร์เน็ตคือสื่อออนไลน์ที่เป็นแหล่งรวมของข้อมูล ความบันเทิง ตลอดจนเป็นทางเลือกใหม่ในการทำธุรกรรมต่างๆ แต่สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน อินเตอร์เน็ตมักจะถูกนำมาใช้เพื่อความบันเทิงเป็นหลัก เห็นได้จากผลงานวิจัยและการทำโพลที่ผ่านมาที่พบว่าเด็กนักเรียนและนักศึกษาใช้อินเตอร์เน็ตในแง่ความบันเทิง โดยเฉพาะเพื่อการเล่นเกมถึงกว่า 80%
             ในขณะที่มีเพียงประมาณ 20% เท่านั้นที่ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสำหรับค้นหาข้อมูลความรู้ จะเห็นได้ว่าเยาวชนของบ้านเราส่วนมากใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการเล่นเกม แช็ต โพสต์ข้อความและภาพ (ซึ่งเต็มไปด้วยคำหยาบและเรื่องลามกอนาจาร) ดูหนังฟังเพลง โหลดภาพและเสียง รับ-ส่งอี-เมล (ซึ่งมักจะเป็นเรื่องไร้สาระ) รวมถึงซื้อขายสินค้าและบริการ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นล้วนเป็นไปเพื่อความบันเทิงแทบทั้งสิ้น      
             เป็นที่น่าสังเกตว่าคนไทยส่วนใหญ่นิยมใช้คำกริยา 'เล่น' กับอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะวลี 'เล่นเน็ต' ที่ถือได้ว่าเป็นคำพูดติดปากเด็กไทย ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้ใหญ่ (รวมถึงผู้เขียนด้วย)
             สื่อสิ่งพิมพ์และสื่อทางทีวีและวิทยุ โดยเฉพาะสื่อโฆษณาในบ้านเราเองก็นิยมใช้คำกริยา 'เล่น' ในเวลาที่กล่าวถึงการใช้อินเตอร์เน็ต

             ตัวอย่างเช่น มีบริษัทที่ให้บริการด้านอินเตอร์เน็ตเจ้าหนึ่งใช้คำโฆษณาว่า "เล่นเน็ตถูกเหลือเชื่อ...ต่อความสนุกแบบจุใจ โหลดกันให้มันส์" เป็นต้น

             นักภาษายอมรับว่าภาษากับความคิดมีความสัมพันธ์ต่อกันจนนำไปสู่แนวคิดที่ว่า 'ภาษาสะท้อนความคิด' เมื่อนำแนวคิดนี้มาวิเคราะห์การใช้คำกริยา 'เล่น' กับอินเตอร์เน็ตในภาษาไทย อาจกล่าวได้ว่าในทรรศนะของคนไทยส่วนใหญ่มองอินเตอร์เน็ตเป็น "ของเล่น" ชิ้นหนึ่งที่นำความสนุกสนานเพลิดเพลินมาสู่ผู้เล่น ดังนั้น คำว่า 'เล่นเน็ต จึงถือเป็นหลักฐานทางภาษาที่ช่วยสนับสนุนข้อค้นพบหรือความเชื่อที่ว่าคนไทยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนนิยมใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อความบันเทิงเป็นหลัก

              การใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อความบันเทิงที่ไร้สาระและล่อแหลมต่อศีลธรรมและจริยธรรมของเยาวชนไทยที่นับวันมีแต่จะทวีความรุนแรงทั้งในแง่เนื้อหาและเวลาที่ใช้ไปกับการหมกมุ่นในเรื่องดังกล่าวถือเป็นปัญหาที่หน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องล้วนมีความเป็นห่วงเป็นใยและพยายามหาวิธีควบคุมและป้องปราม ตลอดจนหาทางปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเยาวชนไทยให้หันมาใช้อินเตอร์เน็ตในทางสร้างสรรค์เพิ่มมากขึ้นในแง่ของการเป็นแหล่งในการศึกษาค้นคว้าข้อมูลความรู้ที่มีอยู่อย่างมากมายมหาศาล

              ในฐานะนักภาษาศาสตร์ ผู้เขียนอยากจะเสนอแนะวิธีการในการปรับเปลี่ยนทรรศนะของเยาวชนไทยที่มีต่ออินเตอร์เน็ตจากการเป็น 'ของเล่น' ไปสู่การเป็น 'เครื่องมือ' ในการแสวงหาความรู้โดยอาศัยแนวคิดที่ว่า 'ภาษากำหนดความคิด' มาช่วยในการเปลี่ยนมุมมองของความคิดของเยาวชนไทย (อย่างค่อยเป็นค่อยไป) ที่มีต่อการใช้อินเตอร์เน็ตในทางสร้างสรรค์ด้วยการขอความร่วมมือสื่อทุกแขนงให้เลิกใช้คำว่า "เล่นเน็ต" แล้วเปลี่ยนมาใช้คำว่า 'ค้นเน็ต' หรือ 'ใช้งานเน็ต' กันให้แพร่หลาย เพราะผู้เขียนเชื่อว่าการใช้คำกริยา 'ค้น' หรือ 'ใช้งาน' กับอินเตอร์เน็ตกันอย่างกว้างขวางน่าจะมีส่วนในการโน้มน้าวความคิดของเยาวชนไทยให้หันมามองและใช้อินเตอร์เน็ตในฐานะที่เป็น'เครื่องมือ' ในการแสวงหาข้อมูลความรู้มากกว่าจะเป็นเพียง 'ของเล่น' (ที่อันตราย) ชิ้นหนึ่งอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ที่มา :  มติชน
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

ประโยชน์ที่ได้รับจากระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต


ประโยชน์ที่ได้รับจากระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต


เครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่โยงใยกันทั่วโลก มีบริการในด้านต่างๆ มากมายไว้บริการสำหรับผู้ที่ต้องการในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีประโยชน์แก่ผู้ใช้ระบบเครือข่ายในรูปแบบต่างๆ   ดังนี้
การอ่าน   อินเทอร์เน็ตมีบริการอ่านบทความ  ความรู้  นวนิยาย  เรื่องสั้น จากหนังสือ  วารสารและนิตยสาร หนังสือพิมพ์ ผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้  มีบริการทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ 
การค้นคว้าข้อมูล  มีบริการที่สามารถเข้าไปใช้บริการค้นหาข้อมูล ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เราสามารถที่จะเข้าไปค้นหา ข้อมูลที่เราสนใจใน World Wide Web หรือ WWW เช่น เข้าไปค้นหาข้อมูลที่เป็นความรู้  ศัพท์  เรื่องที่กำลังเป็นที่นิยม   ทั้งข้อมูล ภาพและเสียง
ประโยชน์ด้านการประชาสัมพันธ์  มีบริการติดต่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อแนะนำบริษัท สินค้า   องค์การหรือหน่วยงานต่างๆ 
ส่งคำอวยพร  ในเทศกาลต่างๆ  มีบริการส่งการ์ดอวยพรและข้อมูลให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ  ผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต  บริการส่งเพลงให้ที่ต้องการส่งให้คนที่รับข้อมูล
ประโยชน์ด้านข้อมูลข่าวสาร     มีบริการอ่านข้อมูลข่าวสารต่างๆ ผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตจากมุมต่างๆ ได้ทั่วโลกโดยผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ที่ให้บริการข้อมูลข่าวสาร  เช่น CNN ตลอดจนหนังสือพิมพ์ต่างๆ  ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่รวดเร็ว
บริการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ต่างๆ  (Software  Download)  ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตซึ่งบริษัทผู้ผลิตมีไว้บริการ เช่น Microsoft, ฯลฯ ซึ่งในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีไว้บริการ เพื่อต้องการ  Down Load  โปรแกรมเพื่อไปใช้งาน  เพื่อการศึกษาความรู้ที่ทันสมัยอยู่เสมอ
การค้นคว้าข้อมูลจากห้องสมุด  (Explore Libraries) ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งในระบบเครือข่าย Online ไว้บริการเพื่อให้ผู้ที่ต้องการค้นหาข้อมูลและบริการอ่านหนังสือใหม่ๆ ที่มีในห้องสมุดต่างๆ
การผ่อนคลาย   มีบริการเล่นเกม (Play Games) ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถใช้บริการเกมออนไลน์ เพื่อให้ความบันเทิง และการฝึกทักษะทางสมองซึ่งเกมออนไลน์ มีอยู่หลายประเภทด้วยกัน เช่น เกมเพื่อการศึกษา ฯลฯ  เกมเหล่านี้จะมีส่วนช่วยกระตุ้นการพัฒนาทางสมองของเด็กให้เร็วขึ้น และช่วยเสริมทักษะความคิดในเรื่องเรื่องการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
การซื้อสินค้า (Shopping) ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยผู้ที่ต้องการเข้าไปซื้อสินค้าในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเลือกรายการสินค้าที่มีไว้บริการสั่งจ่ายโดยใช้บัตรเครดิตได้ทันที ซึ่งจะซื้อขายสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประโยชน์ด้านความบันเทิง  มีบริการดูโทรทัศน์และฟังเพลง (Watch TV. And  Listen Music) 
การแลกเปลี่ยนข้อมูล มีบริการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร (Exchange Message) ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เราสามารถรับส่งจดหมายอิเล็กโทรนิกส์ หรือ E-mail กับผู้ใช้ บริการอินเทอร์เน็ตคนอื่นๆ ได้ทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว
การสนทนา บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตนั้นมีบริการสนทนาออนไลน์ (Chat) ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เรียกว่า Chat สามารถพูดกันได้โดยตรง  เหมาะ สำหรับการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็ว
บริการตอบคำถามให้คำปรึกษา มี web board สำหรับให้คำปรึกษา หรือตอบคำถาม โดยที่ผู้ถามและผู้ตอบไม่รู้จักกันหรือรู้จักกันก็ได้  มีผลดีที่บางข้อคำถามผู้ถามไม่กล้าถามใคร ก็จะมีผู้ให้คำตอบที่เป็นทางสว่างแก่ชีวิตได้
การเรียนทางไกล  (Distance Learning)  ในปัจจุบันมหาวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศ และต่างประเทศมีการใช้หลักสูตรการเรียนการสอนทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทั้งในระดับประกาศนียบัตร ปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก โดยที่ผู้เรียนไม่จำเป็นต้องไปเรียนที่มหาวิทยาลัย แต่สามารถทำการเรียนผ่านระบบการเรียนการสอนทางไกลผ่านระบบออนไลน์  โดยเข้าเรียนตามวันและเวลาที่ทำการเรียนการสอน เช่น วิชาคณิตศาสตร์ การสอนภาอังกฤษ วิชาคอมพิวเตอร์  เป็นต้น

ความสำคัญของอินเตอร์เน็ต


  • 1. ยินดีต้อนรับ สู่ บทเรียนเรื่อง ความสำคัญของอินเตอร์เน็ต
  • 2. ความสำคัญของอินเตอร์เน็ต คำชี้แจง จุดประสงค์การเรียนรู้ ใบงาน แบบทดสอบหลังเรียน เนื้อหา แบบทดสอบก่อนเรียน
  • 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ( ผลที่คาดหวัง ) บอกความสำคัญของระบบ - อินเตอร์เน็ตได้
  • 4. คำชี้แจงการเรียนบทเรียนนี้ ทำแบบทดสอบก่อนเรียน ศึกษาเนื้อหา ทำใบงาน ( ทำลงในสมุด ) แบบทดสอบหลังเรียน ประเมินผล ( ตรวจการทำแบบทดสอบ )
  • 5. ความสำคัญของอินเตอร์เน็ตที่เราคุ้นเคยแบ่งได้ 9 กลุ่มดังนี้ 1. หาความรู้ ความบันเทิง ข่าวสาร และสิ่งที่สนใจ เหมือนกับการอ่านหนังสือ นิตยสารและหนังสือพิมพ์ซึ่งมีมากมายกว่าร้านหนังสือหรือห้องสมุดใดๆในโลก และที่สำคัญ ข้อมูลเหล่านี้มักเป็นของฟรีด้วย ความสำคัญของอินเตอร์เน็ต
  • 6. ส่งและรับจดหมายอิเลคทรอนิคส์ (ELECTRONICS MAIL:EMAIL) ซึ่งเป็นจดหมายที่ สามารถส่งหาผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตคนอื่นได้อย่างรวดเร็ว ข้ามโลกในเวลาไม่กี่วินาที
  • 7.  แลกเปลี่ยนไฟล์ (FILE TRANSFER PROTOCOL:FTP) ไม่ว่าจะเป็นไฟล์โปรแกรม ไฟล์ภาพ หรือเกม
  • 8.  ซื้อและขายสินค้าที่ต้องการ (ELECTRONICS COMMERCE:E-COMMERCE) โดยผู้ขายสามารถจัดแสดงภาพสินค้าไว้ในอินเตอร์เน็ต เพื่อให้ผู้ซื้อมาเลือกชมและสั่งสินค้าได้ทันที และผู้ขายยังสามารถรับชำระเงิน ผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้อีกด้วย
  • 9.  พูดคุยพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ (CHAT และ NEWSGROUP) ทั้งเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ที่คุณสามารถหาได้ง่ายในอินเตอร์เน็ต
  • 10.  ฟังวิทยุ และโทรทัศน์
  • 11. โทรศัพท์ผ่าน อินเตอร์เน็ต ซึ่งอาจมีภาพของ คู่สนทนาด้วย
  • 12.  ส่งการ์ดอวยพร และส่งข้อความให้ผู้ใช้ โทรศัพท์มือถือ และ เพจเจอร์
  • 13. การสืบค้นข้อมูล   ( Gopher, Archie, Wold Wide Web ) ค้นหาข้อมูล ซึ่งมีข้อมูลต่างๆมากมาย ในอินเตอร์เน็ต
  • 14.  ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ( E - Mail ) อีเมล์    เป็นการส่งจดหมายอิเล็กทอนิกส์ผ่านเครือข่าย   โดยมีผู้ส่งจะต้องส่งข้อความไปยังผู้รับ    นอกจากนี้ยังส่งข้อมูล   เป็นไฟล์แนบไปกับอีเมล์ได้ด้วย   การบริการในอินเตอร์เน็ต
  • 15.  การขอเข้าระบบจากระยะไกล หรือเทลเน็ต ( Telnet ) เป็นบริการอินเทอร์เน็ตรูปแบบหนึ่ง   โดยเราสามารถเข้าไปใช้งานคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งที่อยู่ไกลๆ   ได้ด้วยตนเอง   เช่น   ถ้าเราอยู่ที่โรงเรียน   ทำงานโดยใช้อินเทอร์เน็ต   ของโรงเรียนแล้วกลับไปที่บ้าน   เรามีคอมพิวเตอร์และต่ออินเตอร์เน็ตไว้   เราสามารถเรียกข้อมูลจากโรงเรียนมาทำที่บ้านได้   เสมือนกับเราทำงานที่โรงเรียนนั่นเอง     การถ่ายโอนข้อมูล ( File Transfer Protocol หรือ FTP ) เป็นบริการอีกรูปแบบหนึ่งของระบบอินเทอร์เน็ต   เราสามารถค้นหาและเรียกข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ มาเก็บไว้ในเครื่องของเราได้   ทั้งข้อมูลประเภทตัวหนังสือ   รูปภาพ   และเสียง        การบริการในอินเตอร์เน็ต
  • 16.  การสืบค้นข้อมูล   ( Gopher, Archie, Wold WideWeb )   หมายถึงการใช้อินเทอร์เน็ตในการสืบค้นข่าวสารมากมาย   เช่นช่วยจัดเรียงข้อมูลข่าวสารตามหัวข้ออย่างมีระบบ   เป็นหมวดหมู่   ทำให้เราค้นได้ง่ายและสะดวกขึ้    การแลกเปลี่ยนข่าวสารและความคิดเห็น ( Usenet ) เป็นการแลกข่าวสารความคิดเห็นของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลก   สามารถพบปะกัน   แสดงความคิดเห็นของตนเอง   โดยมีการจัดการผู้ใช้เป็นกลุ่มข่าว   หรือนิวกรุ๊ป ( Newgroup )   เช่น   เรื่องหนังสือ   เรื่องการเลี้ยงสัตว์ การบริการในอินเตอร์เน็ต
  • 17.  การสื่อสารด้วยข้อความ   ( Chat, IRC ) เป็นการพูดคุยระหว่างผู้ใช้อินเทอร์เน็ต   โดยพิมพ์ข้อความโต้ตอบกัน   ซึ่งเป็นวิธีการสื่อสารที่ได้รับความนิยม   มากอีกวิธีหนึ่ง การบริการในอินเตอร์เน็ต
  • 18.  การซื้อขายสินค้าและบริการ ( E - Commerce ) เป็นการจับจ่ายซื้อสินค้า   และบริการ   เช่น   ขายหนังสือ   คอมพิวเตอร์   การท่องเที่ยว ฯลฯ   ปัจจุบันมีบริษัทใช้อินเตอร์เน็ตในการทำธุรกิจบริการลูกค้าตลอด   24  ชั่วโมง   ในปี   2540  การค้าขายบนอินเตอร์เน็ตมีมูลค่าสูงถึง   1  แสนล้านบาท   การบริการในอินเตอร์เน็ต
  • 19.   การให้ความบันเทิง   ( Entertain ) ในอินเทอร์เน็ตมีการบริการด้านความบันเทิง   ในรูปแบบบริการต่าง ๆ เช่น   เกมส์   เพลง   รายการโทรทัศน์   รายการวิทยุ   เป็นต้น   เราสามารถเลือกใช้บริการเพื่อความบันเทิงได้ตลอด   24  ชั่วโมง   และจากแหล่งต่าง ๆ ทั่วทุกมุมโลกทั้งจากในประเทศและนอกประเทศ การบริการในอินเตอร์เน็ต
  • 20. ขอขอบคุณ โดย นายสมบัติ พิมพ์จันทร์ โรงเรียนมารีย์อนุสรณ์
  • 21.การใช้อินเตอร์เน็ตในการส่งจดหมายข้อความ   เรียกว่าอะไร ก . อีเมล์ ข . การสืบค้นข้อมูล ค . การโอนถ่ายข้อมูล ง . การแลกเปลี่ยนข่าวสาร 2. การบริการอินเตอร์เน็ตที่มีผู้คนใช้มากที่สุดคือ ก . อีเมล์ ข . เอ็นเทอร์เทน ค . นิวส์กรุป ง . อีคอมเมิร์ซ 3. ข้อใดคืออุปกรณ์ในการแปลงสัญญาจากสายโทรศัพท์เข้าคอมพิวเตอร์ ก . คอมพิวเตอร์ ข . เครื่องพิมพ์ ค . โมเด็ม (Modem) ง . เมาส์   (Mouse) 4. การบริการด้าน   E-Commerce  หมายถึงข้อใด ก . การทำธุรกิจบนอินเตอร์เน็ต ข . การส่งข่าวสารบนอินเตอร์เน็ต ค . การพูดคุยหรือสนทนา ง . การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ถ้านักเรียนต้องการสนทนากับเพื่อน   นักเรียนจะใช้บริการส่วนใดของระบบ อินเตอร์เน็ต ก . E-Mail ค . Char & Talk ข . Telnet ง . Gopher แบบทดสอบก่อน - หลังเรียน คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกกาทับหน้าข้อ X เลือกคำตอบที่สุดที่สุด 6. www เป็นการสืบค้นข้อมูล บนอินเตอร์เน็ต สามารถสืบค้นข้อมูล ประเภทไหนบ้าง ก . ข้อความ ค . ภาพเคลื่อนไหว ข . เสียง ง . ถูกทุกข้อ 7. การขอเข้าระบบจากระยะไกล เป็นการบริการด้านใดบนอินเตอร์เน็ต ก . E-Mail ข . Telnet ค . Char & Talk ง . Gopher 8. การบริการด้าน Usenet เป็นการบริการด้านใด ก . การทำธุรกิจบนอินเตอร์เน็ต ข . การส่งข่าวสารบนอินเตอร์เน็ต ค . การพูดคุยหรือสนทนา ง . การแลกเปลี่ยนข่าวสารและความคิดเห็น 9. ข้อใดเป็นรูปแบบของ E-mail Address ที่ถูกต้อง ก . sombut#hotmail.com ข . sombut$hotmail.com ค . [email_address] ง . sombut ฿ hotmail.com 10. นักเรียนคิดว่าอินเตอร์เน็ตมีความสำคัญด้านใดมากที่สุด ก . อีเมล์ ข . การสืบค้น ค . การแซต ( Chat) ง . มีความสำคัญเท่า ๆ กัน

เด็กรุ่นใหม่ รู้ทันสื่อออนไลน์ ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างถูกวิธี

เด็กรุ่นใหม่ รู้ทันสื่อออนไลน์ ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างถูกวิธี


สื่ออินเทอร์เน็ตในปัจจุบันเป็นที่นิยมกันมากโดยเฉพาะเด็กและวัยรุ่นที่ชื่นชอบกับการใช้สื่อเครือข่ายทางสังคม และสื่อเพื่อความบันเทิง เช่น Hi5, Facebook, Twitter, และ เกมออนไลน์ต่างๆ ซึ่งแม้ว่าจะได้ความสนุกสนาน ไม่ขาดการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนๆ แถมยังได้สาระความรู้แทรกเข้ามาด้วย แต่ก็ต้องไม่ลืมว่ามีภัยแฝงที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่ใช้ที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยเวลาใช้สื่อออนไลน์
จากบทสัมภาษณ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชภัฏ (มรท.) ธัญบุรี ได้ให้มุมมองหลากหลายต่อการใช้สื่อออนไลน์ทั้งในทางสร้างสรรค์และปลอดภัย โดยในทางสร้างสรรค์ได้แก่ การรู้จักศึกษาหาความรู้ในเรื่องที่สนใจผ่านเว็บบอร์ด ในเรื่องของเกมออนไลน์ หากผู้เล่นมีความสนใจในเรื่องกราฟิกสวยๆ การทำ Animation การสร้างตัวละคร สร้างเกมต่างๆ ก็สามารถนำความรู้ตรงนี้ไปปรับใช้และศึกษาเพิ่มเติมได้ ในส่วนของการใช้สื่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเป็นช่องทางในการหารายได้ ก็สามารถทำได้เช่นกัน เช่น การขายสินค้าออนไลน์
ในด้านของภัยแฝง น้องๆ ให้ความเห็นว่า หากเป็นคนที่เล่นเกมแล้วติดเกมมากเกินไป ก็ทำให้เสียการเรียนได้ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญก็คือ “เล่นได้แต่อย่าทิ้งการเรียน” และทั้งเกมออนไลน์หรือโซเชียลเน็ตเวิร์กก็สามารถทำให้เราได้พูดคุยกับคนแปลกหน้า รู้จักเพื่อนใหม่ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การนัดพบกัน ซึ่งเราก็ควรจะศึกษาประวัติของคนที่นัดเจอด้วย และไม่ควรไปนัดพบเพื่อนแปลกหน้าคนเดียว หรือแม้แต่การรับข้อมูลผ่านทางสื่อต่างๆ ก็ควรใช้วิจารณญาณ ไม่เชื่อฟังทุกข่าว หรือทุกเรื่องที่มีคนเขียนโดยไม่ศึกษาก่อนว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร เพราะหากอ่านแล้วเชื่อเลย แล้วเผยแพร่ข้อมูลที่แท้จริงแล้วเป็นเท็จต่อๆ ไป เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง เราก็ถือว่ามีความผิดด้วยเช่นกัน
ดังนั้น สื่ออินเทอร์เน็ต ถือว่ามีทั้งคุณและโทษ อยู่ที่ว่าเราจะเลือกใช้อย่างไร หากเล่นหรือใช้งานเพื่อศึกษาหาความรู้ เราก็ได้ความรู้ได้สาระ แต่หากเล่นเพื่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียวก็จะได้แค่ความบันเทิงสนุกสนานเพลิดเพลิน แต่หากเล่นด้วยความไม่ระวังระวังแล้ว ภัยก็อาจมาถึงตัวได้ง่ายโดยไม่รู้ตัว
ไทยฮอตไลน์ รณรงค์การใช้สื่ออินเทอร์เน็ตและสื่อไอซีทีอย่างเหมาะสมและปลอดภัย และให้ข้อมูลความรู้อันเป็นประโยชน์ต่อทุกเพศทุกวัยเพื่อให้มีทักษะในการปกป้องตนเองจากภัยบนสื่ออินเทอร์เน็ต ติดตามข่าวสารและความรู้เรื่องภัยออนไลน์ หรือคลิกแจ้งเว็บไซต์ไม่เหมาะสมได้ที่ www.thaihotline.org 

ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต


ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต

5 years agobanban
ชม 304,680 ครั้ง
 
ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต

          ปัจจุบันอินเทอร์เน็ต มีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของคนเรา หลายๆ ด้าน ทั้งการศึกษา พาณิชย์ ธุรกรรม วรรณกรรม และอื่นๆ ดังนี้
ด้านการศึกษา 
          - สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่นๆ ที่น่าสนใจ 
          - ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะทำหน้าที่เสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่ 
          - นักศึกษาในมหาวิทยาลัย สามารถใช้อินเทอร์เน็ต ติดต่อกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่กำลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็น ข้อความ เสียง ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ เป็นต้น 

ด้านธุรกิจและการพาณิชย์ 
          - ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ 
          - สามารถซื้อขายสินค้า ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 
          - ผู้ใช้ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุนลูกค้าของตน ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คำแนะนำ สอบถามปัญหาต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้า แจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) หรือโปรแกรมแจกฟรี (Freeware) เป็นต้น 

ด้านการบันเทิง 
          - การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า Magazine o­nline รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่นๆ โดยมีภาพประกอบ ที่จอคอมพิวเตอร์เหมือนกับวารสาร ตามร้านหนังสือทั่วๆ ไป 
          - สามารถฟังวิทยุผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ 
          - สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์ตัวอย่างทั้งภาพยนตร์ใหม่ และเก่า มาดูได้
 
          จากเหตุผลดังกล่าว พอจะสรุปได้ว่า อินเทอร์เน็ต มีความสำคัญ ในรูปแบบ ดังนี้ 
       
          1. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic mail=E-mail) เป็นการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดยผู้ส่งจะต้องส่งข้อความไปยังที่อยู่ของผู้รับ และแนบไฟล์ไปได้ 
          2. เทลเน็ต (Telnet) การใช้งานคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งที่อยู่ไกล ๆ ได้ด้วยตนเอง เช่น สามารถเรียกข้อมูลจากโรงเรียนมาทำที่บ้านได้ 
          3. การโอนถ่ายข้อมูล (File Transfer Protocol ) ค้นหาและเรียกข้อมูลจากแหล่งต่างๆมาเก็บไว้ในเครื่องของเราได้ ทั้งข้อมูลประเภทตัวหนังสือ รูปภาพและเสียง 
          4. การสืบค้นข้อมูล (Gopher,Archie,World wide Web) การใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตในการค้นหาข่าวสารที่มีอยู่มากมาย ใช้สืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ทั่วโลกได้ 
          5. การแลกเปลี่ยนข่าวสารและความคิดเห็น (Usenet) เป็นการบริการแลกเปลี่ยนข่าวสารและแสดงความคิดเห็นที่ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก แสดงความคิดเห็นของตน โดยกลุ่มข่าวหรือนิวกรุ๊ป(Newgroup)แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน 
          6. การสื่อสารด้วยข้อความ (Chat,IRC-Internet Relay chat) เป็นการพูดคุย โดยพิมพ์ข้อความตอบกัน ซึ่งเป็นวิธีการสื่อสารที่ได้รับความนิยมมากอีกวิธีหนึ่ง การสนทนากันผ่านอินเทอร์เน็ตเปรียบเสมือนเรานั่งอยู่ในห้องสนทนาเดียวกัน แม้จะอยู่คนละประเทศหรือคนละซีกโลกก็ตาม 
          7. การซื้อขายสินค้าและบริการ (E-Commerce = Electronic Commerce) เป็นการซื้อ - สินค้าและบริการ ผ่านอินเทอร์เน็ต 
          8. การให้ความบันเทิง (Entertain) บนอินเทอร์เน็ตมีบริการด้านความบันเทิงหลายรูปแบบต่างๆ เช่น รายการโทรทัศน์ เกม เพลง รายการวิทยุ เป็นต้น เราสามารถเลือกใช้บริการเพื่อความบันเทิงได้ตลอด 24 ชั่วโมง
          โดยสรุปอินเทอร์เน็ต ได้นำมาใช้เป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับงานไอที ทำให้เกิดช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็ว ช่วยในการตัดสินใจ และบริหารงานทั้งระดับบุคคลและองค์กร